วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กาบัง: หมาฮีโร่ช่วยเด็ก แห่งฟิลิปปินส์ ได้รับความช่วยเหลือแล้ว


โด่งดังไปทั่วโลก "กาบัง" หมาฮีโร่แห่งเมืองฟิลิปปินส์ กระโดดขวางรถจักรยานยนต์ช่วยชีวิตเด็กน้อย 2 คน ถูกซี่ล้อบดจมูกและกรามหายไป หลังจากองค์การสวัสดิภาพสัตว์ฯ ระดมทุนช่วยเหลือ "กาบัง" อาจจะได้จมูกใหม่



ราวต้นปี 2012 ที่ผ่านมา ทั่วโลกได้รู้จัก "กาบัง สุนัขฮีโร่" ที่ถือกำเนิดขึ้นอีกตัว หลังจากที่มันสร้างวีรกรรมแบบเอาชีวิตเอาแลก เข้าขวางรถจักรยานยนต์ที่ขับมาด้วยความเร็วสูง และกำลังพุ่งเข้าชน
2 เด็กหญิงชาวฟิลิปปินส์ ทำให้ซี่ล้อรถบดขยี้จมูกของมันจนกรามบนแหลกละเอียดเมื่อเดือนธันวาคม
 ปี 2011 แต่มันก็ยังมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้(2013) แม้วันที่เกิดเหตุสัตวแพทย์ตัดสินใจจะใช้วิธีการุณยฆาต ให้มันหลุดพ้นจากความทรมาน แต่เจ้าของได้ขอชีวิตมันไว้ แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น "กาบัง" รอดตาย กลับมามีชีวิตปกติ ร่าเริง เหมือนสุนัขปกติทั่วไป แถมตอนนี้ มันยังมีลูกๆ น่ารักอีกหลายตัว




วีรกรรมของกาบังเป็นที่โจษจันไปทั่วโลก มีสื่อมวลชนหลายสำนักรายงานข่าวเกี่ยวกับมัน มีผู้คนมากมายสมทบทุนช่วยให้มันมีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ แม้ว่าบาดแผลที่บริเวณใบหน้าของมันจะหายดีแล้ว
แต่ก็ยังกังวลกันว่า มันอาจจะติดเชื้อได้ จึงจำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ล่าสุด องค์กรความร่วมมือ
เพื่อสวัสดิภาพสัตว์ มีการระดมทุน เพื่อจะพาเจ้ากาบังและครอบครัวไปรักษาตัวที่ประเทศอเมริกา
ที่โรงพยาบาลสัตวแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเดวิส ซึ่งอาจมีการเตรียมทำจมูกใหม่ให้
เจ้ากาบัง สุนัขฮีโร่ตัวนี้

ส่วนในเมืองไทย เรื่องราวของเจ้ากาบังเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจาก
คุณ "OVER" จาก www.dogilike.com ได้โพสต์เรื่องวีรกรรมของเจ้ากาบังผ่านเว็บบอร์ดว่า
เจ้ากาบัง(Kabang) ได้สูญเสียใบหน้าขณะช่วยชีวิตเด็กน้อย 2 คน เหตุเกิดที่ประเทศฟิลิปปินส์ 




เรื่องมีอยู่ว่าหนูน้อย Dina Bunggal อายุ 11 ปี และ Princess Diansing วัย 3 ขวบ กำลังเดิน
ข้ามถนนพร้อมกับเจ้ากาบัง สุนัขของที่บ้าน ขณะนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ได้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
เจ้ากาบังตัวนี้ได้กระโดดเข้าขวาง เพื่อที่ไม่ให้เด็กๆ ได้รับอันตราย ส่งผลให้จมูกของเจ้ากาบัง
ติดอยู่ในซี่ล้อรถ
     
             เจ้ากาบังได้รับการรักษาจนหายด้วยยาปฏิชีวนะ สามารถใช้อุ้งเท้าในการตักกินอาหาร
 และกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมอย่างกับตัวเองเป็นลูกสุนัขเล็กๆ ที่ชอบมากก็คือเจ้าของพูดว่า
“It does not matter if she’s ugly now. What is important to us is she saved our
children and we cannot thank her enough for that” มันไม่สำคัญว่าเธอจะน่าเกลียด
แค่ไหนในขณะนี้ สิ่งที่สำคัญคือเธอได้ช่วยชีวิตลูกหลานของเราไว้ และเราไม่สามารถ
ขอบคุณเธอได้เท่ากับที่เธอทำให้เรา!!
         
           Mr. Mario Ariola สัตวแพทย์กล่าวว่าเรื่องของกาบังเป็นปรากฏการณ์โด่งดัง
ทางอินเตอร์เนทที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจ
 ตอนนี้เธอกลายเป็น Hero และมีชะตากรรม
ที่หน้าตาของเธอต้องกลายมาเป็นเช่นนี้ ซึ่งนั่นนำมาซึ่งคลื่นของความเห็นอกเห็นใจ 
          และแม้ใบหน้าของเธอยังมีแผลที่เปิดอยู่ เจ้ากาบังก็ไม่ได้แสดงอาการของความเจ็บปวด
เลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำ เธอยังสงบและเป็นมิตรเมื่อถูกนำตัวไปรักษา 
Mr. Mario Ariola กล่าว
และที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้น เจ้ากาบังตั้งท้องได้ 2 เดือน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะสามารถ
ให้กำเนิดลูกน้อยได้หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้
          Mr.Rudy Buggal, เจ้าของกาบังกล่าวว่า “กาบังกลายเป็น superstar
 ผู้คนพากันมาเยี่ยมเธอและถ่ายรูปกับเธอ พร้อมทั้งนำยาและวิตามิน ซึ่งมีแม้กระทั่งนำหมูย่าง
มาให้กาบังในขณะที่ฉันไม่มีอาหารเช้ารับประทาน” 
Mr.Rudy Buggal พูดแบบติดตลก
เขายังพูดอีกว่า 
“การบริจาคให้กาบังไม่เพียงแต่ช่วยเหลือกาบังแต่ยังทำให้เขาและครอบครัว
มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกด้วย เนื่องจากบางคนก็นำเสื้อผ้ามาให้ บริจาคเงินให้แก่เราเล็ก ๆ น้อย ๆ 
เราต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราไม่ได้ร้องขอเลย เราต้องขอขอบคุณจริง ๆ “

                  นอกจากนี้ เจ้ากาบังยังมีแฟนเพจส่วนตัว (www.facebook.com/careforkabang)
 ที่ใช้ชื่อว่า "Care For Kabang" เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการอัพเดทความเคลื่อนไหวของ
เจ้ากาบังสุนัขฮีโร่

                 ตอนนี้เจ้ากาบังได้เดินทางไปถึงที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
เรียบร้อยแล้วนะคะโดยคุณหมอกำลังประเมินการรักษาเจ้ากาบังอยู่ค่ะว่าจะไปในทิศทางไหน 


             สัตวแพทย์ที่ทำการรักษาเจ้ากาบังที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเดวิส เปิดเผยว่า
การรักษาเจ้ากาบังนั้นจะ เริ่มโดยการ
รักษาฟันและกรามรวมไปถึงบริเวณช่องปากก่อน จากนั้น
ก็จะเริ่มรักษาและเยียวยาบริเวณใบหน้าของกาบังต่อตามลำดับ
            กาบังได้ถูกนำไปประเมินการผ่าตัดทางทันตกรรมและใบหน้า โดยผลการตรวจสอบ
สุขภาพของกาบัง
พบปัญหาที่จะทำให้การผ่าตัดนั้นอาจจะต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจาก
พบว่ากาบัง มีอาการของโรคพยาธิหนอนหัวใจ และพบเนื้องอกบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ หรือ
โรคหูดดอกกะหล่ำหรือวีจี  ที่เรารู้จักกัน 
           แต่เนื่องจากเจ้ากาบังยังมีอาการแค่เริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งการรักษาทางเคมีบำบัด
จะสามารถช่วยได้ ทั้งนี้เจ้ากาบังจะต้องรักษาอาการและโรคเหล่านี้ให้หายก่อน จึงจะสามารถ
ทำการผ่าตัดในส่วนของแผลที่ใบหน้าต่อไปได้
เพื่อความปลอดภัยค่ะ



 สำหรับเพื่อนๆที่สงสัยว่าเจ้ากาบังสามารถรับรู้กลิ่นได้เหมือนปกติหรือไม่  จากภาพจะเห็น
ได้ว่ากาบังสามารถดมกลิ่นได้เหมือนกับสุนัขทั่วไปเลยค่ะ 


และเรามาแสดงความยินดีกับกาบังกันค่ะ ล่าสุดเจ้ากาบังสุนัขฮีโร่ของเราได้รับรางวัล
จากองค์การกาชาดสากล 
โดยรางวัลนี้จะมอบให้กับบุคคลและสุนัขที่เสียสละ เพื่อเชิดชู
ในความกล้าหาญ โดยกาบังถูกยกย่องให้เป็น Hero Dog ร่วมกับบุคคลที่เสียสละคนอื่นๆ
ซึ่งภายในงานได้มีการติดภาพกาบังเคียงข้าง
ผู้เสียสละและอาสาสมัครคนอื่นๆ อย่างน่า
ภูมิใจเป็นที่สุดค่ะ นอกจากนี้เจ้ากาบังยังได้รับประกาศนียบัตรแสดงความชื่นชม ในความ
กล้าหาญจาก วุฒิสภาและรัฐสภาสหรัฐ อีกด้วย ไม่ธรรมดาจริงๆเลยนะคะ

เจ้ากาบังเนี่ยะ ดีใจกับรางวัลนี้ด้วยนะ กาบัง !









ล่าสุด ทาง มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเดวิด มีการอัพเดทการรักษาเจ้ากาบังมาแล้วนะคะว่า
หลังจากการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจเรียบร้อยแล้ว c]tะเริ่มการศัลยกรรมใบหน้าของกาบัง
ทันที
 เนื่องจากแผลของกาบังยังคงเป็นแผลเปิดอยู่ทั้งหมด ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้ออยู่
ตลอดเวลาค่ะ  และเมื่อทำการรักษาเสร็จแล้วกาบังจะมีแผนในการกลับบ้านที่ฟิลิปปินส์
ในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนในปี 2013


เข้าไปให้กำลังใจกาบังกันได้นะคะที่ 

https://www.facebook.com/careforkabang








ภาพและข้อมูลจาก http://www.dogilike.comhttp://www.dogster.com และ 
                    http://www.komchadluek.net/



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น