วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ควายคู่เผือก-ดำได้อยู่บ้านใหม่โขงวิวแล้ว


เมื่อวันที่ 19 พ.ค.56  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายล้วน จันทร์แปงเงิน ชาวบ้านทุ่ง
หมู่ 2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประกาศขายควาย 2 ตัว อายุ 3 ปีเท่ากัน โดย
ตัวหนึ่งเป็นควายเผือก และอีกตัวเป็นควายดำ เพราะมีปัญหาการเลี้ยงดูเนื่องจากจะเข้าฤดู
การทำนาทำให้ไม่มีสถานที่เลี้ยง แต่ก็ไม่อยากขายเข้าโรงเชือดเพราะสงสารเนื่องจากผูกพัน
กันมานานตลอดเวลาที่เลี้ยงดู
เมื่อมีการเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป นายวชิระ รัศมีจันทร์ ผู้บริหารโครงการโขงวิว สเตชั่น ซึ่งเปิด
ป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีฟาร์มแกะ มีรถม้าวิ่งชมเมือง มารับเป็นเจ้าภาพรวบรวมเงิน
ไปซื้อควายทั้งสองตัวมาเลี้ยงและรับดูแลตลอดไป เบื้องต้นบริจาคเงิน 10,000 บาท จนมี
ผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินได้กว่าเก้าหมื่นบาทนั้น
ล่าสุดทีมงานได้นำเงิน 65,000 บาทมามอบกับเจ้าของควายและขนย้ายมายังที่อยู่ใหม่ ซึ่ง
โขงวิว สเตชั่น ได้จัดทำคอกเลี้ยงไว้รวมกับม้าที่ทางโครงการได้เลี้ยงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วน
เงินส่วนต่างที่เหลือก็จะเก็บไว้ใช้ซื้ออาหารสำหรับควายทั้งสองตัวต่อไป
นายวชิระ กล่าวว่า จากนี้จะนำควายทั้งคู่ไปเลี้ยงไว้ที่คอกให้อยู่คู่กันในโรงเดียวกับม้า โดยจัด
คนเลี้ยงดูอย่างดีโดยเฉพาะมีลำธารด้านหลังโครงการให้ควายทั้งคู่ได้นอนเล่นน้ำซึ่งเป็นปกติ
ของควายอยู่แล้ว รวมทั้งจะติดป้ายประกาศรายชื่อผู้ร่วมบริจาคและจำนวนเงินเอาไว้อย่างละเอียด
เอาไว้บริเวณที่เลี้ยงเพื่อให้ผู้ที่บริจาคหรือประชาชนทั่วไปที่สนใจไปดูได้ต่อไป ทั้งนี้เดิมโครงการ
มีเพียงม้า แกะ จากนี้ก็จะมีควายเผือกและควายดำอันเกิดจากการร่วมทำบุญของประชาชนทั่วไป
เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ด้านนายวีรศักดิ์ ศิริสิทธิ์ นายอำเภอเชียงแสน กล่าวว่านับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทางโครงการโขงวิว
สเตชั่น ได้ริเริ่มตั้งกองทุนเพื่อรวบรวมเงินจากผู้ใจบุญทั้งหลายไปไถ่ตัวเจ้าควายทั้งคู่มาเลี้ยงดูไว้
เพราะเป็นการร่วมกันทำบุญไถ่ชีวิตเป็นการรักษาพันธุ์ควายไทยเอาไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังหรือเด็กๆ
ที่ปัจจุบันแทบจะไม่เคยเห็นควายตัวจริง โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่ในเมือง เมื่อทาง
โครงการได้รับเอาควายทั้งคู่มาเลี้ยงดูก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะทุกคนที่ร่วมบริจาคก็ถือว่า
เป็นเจ้าของควายด้วยกันสามารถเดินทางมาดูหรือมาเยี่ยมเยียนเจ้าควายทั้งสองตัวได้ตลอดเวลา
เป็นการยืนยันว่าทั้งสองรอดชีวิตไม่ถูกส่งเข้าโรงเชือดอย่างแน่นอน.

ภาพและข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น