วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาววิศวฯ ม.ศิลปากร ใจบุญหิ้วกล่องยาดูแลสุนัขจรจัดป่วยใกล้ตาย

มายด์ รุ่นพี่ปี 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (ทับแก้ว)
สาวใจบุญรักสัตว์ ดูแล “บิ๊ก” สุนัขวัย 10 ปี ป่วยโรคไต ใช้เวลาหลังเลิกเรียนหิ้วกล่องยาดูแล
ให้น้ำเกลือทุกวัน
       

มายด์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (ทับแก้ว)
       Life On Campus ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับ นางสาวจุฑาโชติพัทธ อู่สิริมณีชัย หรือ “น้องมายด์”นักศึกษาชั้นปี 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (ทับแก้ว) หลังจากที่เจ้าตัวใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือสุนัขจรจัดป่วยเป็นโรคไต ในเพจ “UniDog (Thailand)” จนได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆและพี่ๆ ที่รู้จักในรั้วมหาวิทยาลัยและชาวสังคมออนไลน์มากมาย ทั้งนี้จึงขอชื่นชมความมีน้ำใจของสาวน้อยใจบุญคนนี้พร้อมกับพูดคุยกับเธอคนนี้
วันแรกที่มายด์เจอ "บิ๊ก" สุนัขจรจัดป่วยเป็นโรคไต และหลังจากนั้้นได้ดูแลรักษามาตลอด
      
 มายด์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว พบสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ใต้ตึกคณะวิทยาศาสตร์ รู้สึกว่าทำไมสุนัขตัวนี้มันผอมมากเลยในใจคิดว่าคงไม่ได้กินข้าว จึงเดินไปซื้อไส้กรอกให้กิน กลับมาเจออีกทีประมาณเดือนที่เเล้วนอนอยู่มันผอมกว่าเดิม จนเห็นซี่โครง หนังหุ้มกระดูกเลยก็ว่าได้ ไม่ค่อยจะกินอะไร สายตามันดูเศร้าๆ จึงตัดสินใจถามยามดูแลตึก เค้าบอกว่า สุนัขตัวนี้ถูกนำมาทิ้งไว้ แถมยังอายุมากแล้วด้วย
       
       “ตอนนั้นสงสัยว่า ทำไมสุนัขตัวนี้ผอมลงเรื่อยๆ เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก สายตาของมันดูเศร้าๆมาก มายด์เลยไปซื้อไส้กรอกให้กิน แต่มันก็ไม่ยอมกินเลย มายด์คิดว่าต้องเป็นอะไรแน่ๆ ถ้าเราไม่ช่วยอีกไม่นานก็คงต้องตาย จึงตัดสินใจโทรไปถามแล้วเล่าอาการที่เห็นให้พี่ที่ช่วยเหลือหมาจรจัดเหมือนกันกับเรามาตลอด พี่เค้าเลยบอกน่าจะเป็นพยาธิเม็ดเลือดหรือโรคไต ให้พาไปเจาะเลือด เดี๋ยวจะช่วยออกค่าเจาะเลือดให้”
"ประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต" มายด์ใช้เข็มเจาะน้ำเกลือเพื่อรักษาโรคไตให้กับบิ๊
       มายด์ พยายามหาวิธีรักษาเบื้องต้นไม่ให้อาการบิ๊กแย่ลงไปมากกว่าเดิม พร้อมกับแบ่งเงินค่าขนมส่วนตัว
เพื่อซื้อยาและอุปกรณ์รักษาสัตว์ เพื่อคอยดูแลบิ๊กและสุนัขบางตัวที่บาดเจ็บมีแผล “ในกล่องยาก็จะมี
น้ำเกลือประมาณ 2 ขวดที่เป็นของบิ๊ก มีสำลี แอลกอฮอล์ล้างแผล เบตาดีนใส่แผล พกเอาไว้เวลาเจอ
สุนัขที่มีแผลตามตัว บางตัวเป็นขี้เรื้อนก็จะมายามาทาให้ จริงๆ มายด์เรียนวิศวฯ นะ ไม่ได้เรียนสัตวแพทย์
แต่พอจะทำได้ ก็รักษาแผล ใส่ยา เท่านั้น ส่วนรายล่าสุด อย่างบิ๊ก ต้องให้น้ำเกลือ ต้องใช้เข็ม ถือว่า
เป็นครั้งแรกที่ใช้เข็มให้น้ำเกลือ พยายามหาข้อมูลในเว็บไซต์เหมือนทุกครั้ง ต้องให้บริเวณไหน
ต้องใช้เข็มยังไง กลัวนะ แต่ก็บอกบิ๊กว่า อย่ากัดนะ มาช่วยนะ
 พอให้น้ำเกลือได้แล้ว จากนั้นหลัง
เลิกเรียนก็ไปคณะวิทยาศาสตร์แทบทุกวัน วันไหนไม่ว่างติดเรียนหรือต้องทำงาน ก็จะฝากยาไว้กับ
ร้านค้าใต้ตึก ฝากแม่ค้าหรือไม่ก็ยามหน้าตึกช่วยจับบิ๊กกินยา"

                                              ลงมือรักษาและดูแลบิ๊กด้วยตัวเอง
       ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ไม่กลัวว่าเสื้อผ้าชุดนักศึกษาจะเปื้อนเวลาจับสุนัขหรืออาจจะเปื้อนเลือดจาก
ตัวสุนัข มายด์ตอบว่า ไม่รังเกียจ เปื้อนก็ซักใหม่ได้ แต่ถ้าซักไม่ออกก็ไม่เป็นไร เพราะรอยเปื้อนนี้มาจาก
การช่วยเหลือสัตว์ที่บาดเจ็บ “สุนัขบางตัวก็คงไม่อยากสกปรกหรือเป็นโรคให้คนรังเกียจหรือ
ไล่ไปไกลๆหรอก แต่เค้าเลือกเกิดหรือว่าจะอยู่ที่ไหนไม่ได้หรอก สุนัขทุกตัวก็มีความรู้สึกเหมือน
คนที่อยากมีคนรัก อยากมีบ้านและอยากมีคนดูแลเหมือนคนในครอบครัว วันนี้เราช่วยได้เราก็
อยากช่วยให้เต็มที่”
       


      
 มายด์ บอกอีกว่าตอนนี้ปิดเทอมแล้วก็คงต้องกลับบ้าน กลัวไม่มีใครคอยให้อาหาร ให้ยา และให้
น้ำเกลือบิ๊กเหมือนกันทุกวัน และถ้าไม่ได้กินยา ให้น้ำเกลือ ก็กลัวว่าค่าไตจะเพิ่มขึ้น อาการจะทรุดลงอีก
และอีกอย่างกลัวมีคนมาจับสุนัขในมหาวิทยาลัยไปปล่อยที่อื่น แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือเปล่า จึง
อยากช่วยบิ๊กให้ดี
       
       “ก่อนหน้านี้ได้เอาเรื่องของบิ๊กไปแชร์ลงในเฟสบุ๊ก มีเพื่อนที่รู้จักช่วยกันแชร์ มีคนใจบุญบริจาคเงิน
ช่วยบิ๊ก ทั้งค่ายาและค่าน้ำเกลือ จนกระทั่งตอนนี้บิ๊กไปฝากไว้ที่รพ.สัตว์ราชมรรคา นครปฐม อาการของ
บิ๊กดีขึ้นเรื่อยๆจากตอนเเรกน้ำหนักประมาณ15 กิโลกรัม ตอนนี้ 16.6 กิโลกรัม บิ๊กต้องให้ปริมาณยาเพิ่มขึ้น
เพราะน้ำหนักเพิ่มเเละต้องเพิ่มตัวยาบางตัวเเละให้น้ำเกลือทุกวันๆละประมาณ500mL"
       

       สำหรับการรักษาบิ๊ก สุนัขจรจัดตัวนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเธอ เพราะต้องดูแลเป็น
พิเศษกว่าสุนัขทุกตัวที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม มายด์เป็นห่วงบิ๊กเป็นพิเศษ พอมีเวลาจะขับรถจาก
สมุทรสาครมาดูบิ๊กที่โรงพยาบาล เธอบอกกับเราว่า บิ๊กจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลนานประมาณ 1 เดือน
หลังจากเปิดเทอมถึงจะกลับมาและให้น้ำเกลือด้วยตัวเองเหมือนเดิมที่คณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งยอมรับว่า
ค่าใช้จ่ายและค่ายา สูงมากพอสมควร ซึ่งส่วนเงินที่ได้บริจาคมายด์จะถ่ายใบเสร็จค่ารักษาและค่ายา
ทุกครั้งลงไว้ในเฟสบุ๊ก เพราะกลัวว่า ใครจะเข้าใจผิดและคิดว่าเธอจะนำเงินบริจาคไปใช้อย่างอื่น

       
       มายด์บอกว่า สิ่งที่ทำนั้นคือ ความสบายใจ ไม่ว่าจะเป็นเอาอาหารไปให้สุนัขจรจัด หรือ ทำแผลให้
กับสัตว์ที่บาดเจ็บก็ตาม แค่พวกเค้ามีความ สุข ไม่หิว ไม่ต้องทรมาน ถึงแม้มันจะแค่อาหารมื้อเดียว หรือ
แผลแค่เล็กน้อยที่เราพอจะทำได้ “สุนัขไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้เหมือนคน ต่อให้เค้า
เจ็บมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นนก สุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ ถ้าเราเป็นคนที่เห็นแล้วพอที่จะช่วยเหลือ
ได้เราก็ควรที่จะลงมือช่วยก่อน ถ้ามันรอแต่คนอื่นช่วยมันไม่มีที่สิ้นสุด เดี๋ยวก็เกี่ยงกันไปมา
หรือไม่ก็มีคนคิดว่า เดี๋ยวก็คงจะมีคนอื่นมาช่วย ช่างมันเถอะ สุดท้ายก็ไม่มีใครช่วย แล้วสัตว์
ที่บาดเจ็บก็คงจะหนักขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดอาจจะทรมานจนตายก็ได้ แต่ถ้าเราสามารถ
ช่วยเหลือเค้าได้ก่อน เค้าจะไม่ทรมานและอาการไม่หนักขึ้นเรื่อยๆ แค่ 1 วินาที พวกเค้าจะมี
ชีวิตอยู่หรือตายก็ได้ไม่มีใครรู้แต่ถ้าเราช่วยพวกเค้าเต็มที่แล้วไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไงเราจะ
ได้ไม่เสียใจทีหลัง”
       

บิ๊กสงบลงและไม่กลัวเหมือนวันแรกที่พบมายด์
       ทุกคนแทบจะบอกเหมือนกันหมดว่า “ น่าสงสารเนอะ “ ช่วยเค้าหน่อยเถอะอย่าบอกแค่สงสาร
แค่นี้มันก็ไม่ได้แก้ปัญหาที่เกี่ยวกับสัตว์ไร้ที่อยู่ได้หรอกมันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปแต่ชีวิตของสัตว์ที่คุณ
ช่วยมันจะเปลี่ยนให้ดีขึ้น ซึ่งสุนัขก็ไม่ต่างจากเราทุกๆคนนั้นแหละ แค่สัตว์พูดไม่ได้ แต่หิวเป็น เจ็บเป็น
อยากมีบ้าน มีครอบครัวที่อบอุ่นคอยดูแลยามเจ็บป่วย อยากมีข้าวกินทุกวันจะได้ไม่ทรมานอดมื้อกินมื้อ
ถ้าเจอสัตว์บาดเจ็บหันกลับมาช่วยพวกเค้าหน่อย เพราะพวกเค้าต้องการความช่วยเหลือแต่บอกไม่ได้
อาหารขอให้พวกเค้าได้กินบ้าง บางตัวอาจจะต้องดูแลลูกๆด้วย ลูกๆอาจจะอดตายได้ ตากแดดจาก
ฝนทุกวัน อย่าทำร้ายพวกเค้าเลยแค่นี้มันก็ทรมานมากพอแล้

       

       ท้ายนี้ Life On Campus ขอชื่นชมน้ำใจของสาววิศวฯ ม.ศิลปากรคนนี้ เธอไม่มีความรู้
ด้านการรักษาสัตว์แต่อย่างใด แถมยังเรียนคณะวิศวฯ ที่ต้องคำนวณสูตร และประมวลผลมากมาย
แต่เธอรู้จักเลือกที่ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน ศึกษาอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้รักษาสัตว์ วิธีบรรเทา
อาการเจ็บป่วยของสุนัข รวมไปถึงยาชนิดอื่นๆไม่ต่างจากเด็กนักศึกษาคณะสัตวแพทย์
ทุกวันนี้สาววิศวฯ คนนี้ยังเดินหิ้วกล่องยา ภายในบรรจุน้ำเกลือ แอลกอฮอล์ สำลี ยาใส่แผลสด
และยาอื่นๆ เพื่อรักษาสุนัขที่เจ็บป่วยในมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ หากใครผู้มีจิตศรัทธาต้องการ
บริจาคทุนทรัพย์เพื่อช่วยเหลือ “บิ๊ก” สุนัขป่วยโรคไต สามารถบริจาคได้ที่ เลขที่บัญชี
537 2098 599 ชื่อ จุฑาโชติพัทธ อู่สิริมณีชัย ธนาคารทหารไทย

ภาพและข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/ ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2556 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น