วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เจ้าของพิตบูลไอเดียเจ๋ง ประดิษฐ์ลู่วิ่งช่วยสุนัขออกกำลังกายคลายเครียด


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าของสุนัขพันธุ์พิตบูลไอเดียเจ๋ง ประดิษฐ์ลู่วิ่งสำหรับให้สุนัขพันธุ์พิตบูลที่เลี้ยงไว้ 3 ตัวได้วิ่งออกกำลังกายคลายเครียด และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย โดยที่ไม่ใช้มอเตอร์ หรือไฟฟ้า และปลอดภัยไม่ต้องพาไปออกกำลังกายนอกบ้าน ซึ่งอาจไม่ปลอดภัย และทำร้ายผู้อื่นเพราะเป็นสุนัขพันธุ์ดุ
       
ขึ้นเองโดยไม่ต้องบังคับ แค่คล้องโซ่ให้ก็วิ่งป๋อแล้ว

       นายชูศักดิ์ รัตนปราการ ซึ่งเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบูล ไว้ในบ้านพักเลขที่ 12 ถนนสายบุรี เขตเทศบาลนครสงขลา จำนวน 3 ตัว เพื่อเฝ้าบ้าน ได้ประดิษฐ์ลู่วิ่งสำหรับให้สุนัขทั้ง 3 ตัวได้วิ่งออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย และช่วยคลายเครียดให้แก่สุนัข เนื่องจากสุนัขพันธุ์พิตบูลหากไม่ได้ออกกำลังจะมีอาการหงุดหงิด และเห่าตลอดเวลา แต่หากพาไปเดินออกกำลังกายนอกบ้านเกรงว่าอาจจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากเป็นสุนัขพันธุ์ดุ จึงต้องประดิษฐ์ลู่วิ่งขึ้นมา 3 ชุด เพื่อให้สุนัขทั้ง 3 ตัว ได้ออกกำลังกายภายในบ้าน


นี่ก็อีกตัวมารอพร้อมวิ่งบนลู่เช่นกัน
       
       สำหรับลู่วิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นมาทั้ง 3 ชุด คล้ายๆ กับเครื่องวิ่งออกกำลังกายภายในบ้านทั่วๆ ไป โดยมีรั้วเหล็กกั้น 2 ข้าง และต่อเหล็กไว้บนรั้วสำหรับล่ามโซ่สุนัข ตรงกลางคล้องด้วยสายพานสำหรับเป็นลู่วิ่ง โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ เมื่อสุนัขขึ้นไปเดิน หรือวิ่งสายพานจะลื่นไหลไปตามจังหวะการวิ่งของสุนัขว่าจะเร็วหรือช้า และจะนำถังน้ำมาวางไว้ใกล้ๆ เพื่อให้สุนัขกินเวลาเหนื่อย และช่วยฉีดน้ำบนตัวมันเพื่อคลายร้อน
       
เหนื่อยแล้วกินน้ำเพิ่มพลังซักหน่อย
       คุณชูศักดิ์ บอกว่า จะนำสุนัขทั้ง 3 ตัวมาวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งในช่วงเช้าทุกวันๆ ละประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ 08.00น.-10.00 น.ซึ่งทั้ง 3 ตัวต่างชอบใจ โดยเฉพาะเวลาที่มีคนมามุงดูเยอะๆ หรือมีรถจอดติดไฟแดงที่หน้าบ้านเจ้าสุนัขทั้ง 3 ตัวก็จะแสดงพลังโชว์ออฟวิ่งเร็วขึ้น และวิ่งไม่หยุด สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้ที่พบเห็น

       
ใจตรงกัน หิวน้ำพอดี แต่ไม่หวงกันนะ

       สำหรับสุนัขพันธุ์พิตบูลที่ตนเลี้ยงไว้ทั้ง 3 ตัว ขณะนี้อายุย่างเข้า 4 ขวบ ชื่อเจ้าบูลเบน (สีขาว) เจ้าน้ำหวาน (สีดำ) และเจ้าอังเปา (สีน้ำตาล)


ข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/
ดูคลิปเพิ่มเติม






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น